เมื่อเป็นมือใหม่เล่นพนัน คุณอาจสงสัยว่าจะเล่นแบล็คแจ็คยังไง แบล็คแจ็คเป็นเกมนึงที่เก่าแก่ที่สุด นักพนันที่มีประสบการณ์บอกว่าเกมนี้สนุก แล้วยังได้กำไรมหาศาลจากเกมนี้ กฎของแบล็คแจ็คอาจฟังดูเยอะสำหรับหลายคน แต่จริง ๆ มันเป็นเกมที่เล่นง่ายนะถ้าได้เรียนรู้เกี่ยวบ้างแล้ว
ในคู่มือนี้ เราได้ครอบคลุมข้อมูลที่สำคัญ เช่น กฎของแบล็คแจ็ค กลยุทธ์การทำกำไร เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณชนะ และอื่นๆ อีกมากมาย
เรามาลงรายละเอียดกันเลย!
วิธีเล่นแบล็คแจ็คสำหรับมือใหม่
ในส่วนนี้เราจะพูดถึงพื้นฐานของแบล็คแจ็ค กฎและกลยุทธ์ของเกม
พื้นฐานแบล็คแจ็ค
คุณอาจสงสัยว่า ‘แบล็คแจ็คคืออะไรล่ะ?’ เรามาตอบกันเป็นข้อ ๆ ง่าย ๆ เลย:
- ในการที่จะชนะแบล็คแจ็ค คุณต้องมีแต้มไพ่ในมือสูงกว่าแต้มไพ่เจ้ามือ นั่นหมายถึงแต้มไพ่รวมในมือของคุณต้องสูงกว่าเจ้ามือ แต่ต้องต่ำกว่า 21
- ถ้าแต้มไพ่ในมือคุณสูงกว่า 21 คุณแพ้แล้ว เช่นเดียวกับเจ้ามือ หากแต้มไพ่ของเจ้ามือสูงกว่าของคุณแต่ต่ำกว่า 21 เจ้ามือจะชนะ
- หากแต้มไพ่ของเจ้ามือสูงกว่าของคุณและก็สูงกว่า 21 เจ้ามือก็แพ้
- ในแบล็คแจ็ค ผู้เล่นนั้นสู้กับกับเจ้ามือและไม่ได้สู้กันเอง
- หากแต้มไพ่ของคุณหรือของเจ้ามือสูงกว่า 21 เราเรียกว่า “bust” ก็คือแพ้แล้วนั่นเอง
6. กรณี ‘push’ คือเมื่อไพ่ของผู้เล่นและไพ่ของเจ้ามือมีแต้มรวมเท่ากัน ไม่มีใครชนะการเดิมพันและจำนวนเงินเดิมพันเดิมของคุณจะถูกส่งคืนให้กับคุณ ในกรณี ‘push’ คุณจะไม่เสียเงินเดิมพันและสามารถใช้จำนวนเงินเดิมพันนี้ในรอบถัดไปได้
7. เมื่อคุณหรือเจ้ามือได้รับเอซและไพ่ฝรั่ง (King, Queen & Joker) และผลรวมของไพ่ทั้งสองใบคือ 21 นั่นคือแบล็คแจ็คแบบ ‘natural’ ใครก็ตามที่ได้ไพ่แบล็คแจ็คแบบนี้ก็จะชนะรอบนี้โดยปริยาย
| สถานการณ์แบล็คแจ็ค | ผลลัพธ์ |
| หากไพ่ทั้งหมดของคุณสูงกว่าเจ้ามือ แต่ต่ำกว่า 21 | คุณชนะ |
| หากไพ่ทั้งหมดของคุณสูงกว่าเจ้ามือ และก็สูงกว่า 21 | คุณแพ้ (Bust) |
| หากไพ่ทั้งหมดของเจ้ามือสูงกว่าของคุณ แต่ต่ำกว่า 21 | เจ้ามือชนะ |
| หากไพ่ทั้งหมดของเจ้ามือสูงกว่าของคุณ และก็สูงกว่า 21 | เจ้ามือแพ้ (Bust) |
| ถ้าแต้มไพ่ในมือคุณและของเจ้ามือเท่ากัน | ไม่มีใครชนะ (Push) |
เพื่อการเข้าใจวิธีการเล่นแบล็คแจ็คให้มากขึ้น เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับไพ่ให้กัน ในแบล็คแจ็ค เราใช้ไพ่สำรับ 52 ใบ ไพ่ 2-10 มีแต้มเท่ากับตัวเลขบนไพ่ ส่วนไพ่ฝรั่ง (King,Queen & Jack) และ 10 มีแต้มเป็น 10 เอซนั้นมีแต้ม 1 หรือ 11 แล้วแต่สถานการณ์ในเกม
| ไพ่ | แต้ม |
| ไพ่เลข 2-9 | ตามตัวเลข – 2 มีแต้ม 2 ส่วน 3 มีแต้ม 3 เรื่อย ๆ ตามนั้นจนถึงไพ่ 9 |
| ไพ่ฝรั่ง — King Queen & Jack | 10 แต้ม |
| ไพ่ ‘10’ | 10 แต้ม |
| ไพ่เอซ | 1 หรือ 11 แต้มแล้วแต่สถานการณ์ |
พิจารณาถึงแต้มของไพ่แต่ละใบ เป้าหมายของคุณคือการมีแต้มสูงกว่าเจ้ามือ แต่ต้องต่ำกว่า 21 หากต้องการชนะการเดิมพัน คุณจะต้องเอาชนะไพ่ในมือของเจ้ามือ
กฎของแบล็คแจ็ค
- เมื่อคุณวางเดิมพันและเจ้ามือแจกไพ่ เขาจะแจกไพ่ให้คุณสองใบ – หงายหน้าทั้งสองใบ
- เจ้ามือแจกไพ่ให้ตัวเองสองใบ – ใบหนึ่งหงายหน้าและอีกใบคว่ำหน้า
ในการเป็นนักเล่นแบล็คแจ็คมืออาชีพ คุณต้องเข้าใจการเกมที่สำคัญ: hit stand split double down และ insurance.
1. Hit: ในแบล็คแจ็ค ‘hit’ หมายความว่าคุณขอให้เจ้ามือแจกไพ่ให้คุณอีกใบ แต่ละครั้งที่คุณแจ้ง ‘hit’, เจ้ามือจะแจกไพ่ให้คุณอีกใบจนกว่าแต้มรวมของคุณจะเกิน 21 คุณสามารถขอ ‘hit’ เมื่อแต้มรวมไพ่ของคุณอยู่ในช่วงที่ตำ เช่น 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12 ฯลฯ
2. Stand: เมื่อคุณเลือกที่จะ ‘stand’ ในแบล็คแจ็ค คุณกำลังแจ้งให้เจ้ามือทราบว่าคุณไม่ต้องการให้แจกไพ่เพิ่ม และคุณพร้อมที่จะให้เจ้ามือแสดงไพ่ในมือของเขาแล้ว คุณสามารถเลือก ‘stand’ เมื่อแต้มไพ่ทั้งหมดของคุณอยู่ที่ 16 และสูงกว่า – ใกล้กับ 21
3. Insurance: เมื่อมือของเจ้ามือมีไพ่เอซ เจ้ามือจะให้ทางเลือกให้คุณ ‘insurance’ Insurance เป็นการเดิมพันย่อยที่คุณสามารถวาง เพื่อเพิ่มความได้เปรียบเล็กน้อยกับคุณในกรณีที่คุณแพ้เดิมพันหลัก การจ่ายเงินสำหรับการเดิมพันย่อยนี้คือ 2:1
4. Double down: เมื่อคุณสามารถที่จะ double down ได้ คุณสามารถเลือกเพิ่มเดิมพันที่มีอยู่เป็นสองเท่าและรับไพ่ใบที่สาม หลังจากที่คุณได้รับไพ่ใบที่สามพร้อมตัวเลือก double down คุณจะไม่สามารถเลือก ‘hit’ ได้ และจะเป็นตาของเจ้ามือทันที
5. Split: คุณจะเลือกที่จะ split ได้เมื่อคุณได้รับไพ่สองใบที่เหมือนกันเช่น เอซสองใบ 2 สองใบ 8 สอง 5 สองใบ ฯลฯ เมื่อคุณ split เงินเดิมพันแล้วคุณก็ได้แยกไพ่คุณเป็นสองมือ
คำแนะนำทีละขั้นตอนสำหรับวิธีการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
คุณได้เข้าใจพื้นฐานของแบล็คแจ็คแล้ว เรามาดูวิธีเล่นแบล็คแจ็คทีละขั้นตอนดีกว่า
- เลือกคาสิโนออนไลน์ที่ปลอดภัย ลงทะเบียนและฝากเงินเข้าบัญชีคาสิโนของคุณ จากนั้นให้คลิกที่แบล็คแจ็ค แล้วเลือกเกมแบล็คแจ็คที่คุณต้องการเล่น
- เมื่อคุณได้เข้าเกมแล้ว ให้เลือกขนาดเงินเดิมพันของคุณ ตัวอย่างเช่น $100
3. คลิกที่ ‘deal’ เพื่อให้เจ้ามือแจกไพ่
4. ตอนนี้คุณสามารถดูจำนวนแต้มในมือทั้งหมด คุณสามารถเลือกที่จะ ‘hit’ หรือ ‘stand’ ได้ ในกรณีนี้ เนื่องจากแต้มในมือทั้งหมดของคุณอยู่ในปริมาณที่ต่ำ คุณจึงสามารถเลือก ‘hit’ ได้เพื่อรับไพ่อีกใบ หากแต้มรวมเป็น 16 หรือสูงกว่า คุณสามารถเลือกที่จะ ‘stand’ ได้ เพราะแต้มใกล้เคียง 21 และโอกาสที่คุณจะแพ้หรือ bust นั้นสูงกว่า
5. เมื่อนับไพ่ใบที่สาม แต้มรวมคือ 20 ซึ่งใกล้ 21 เข้าไปอีก คุณสามารถเลือกที่จะ ‘stand’ ได้และให้เจ้ามือเปิดไพ่ของเขา
6. หากแต้มรวมไพ่ของเจ้ามือนั้นเกิน 21 ถือว่า ‘bust’ และคุณชนะในรอบนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในรูปตัวอย่าง หากไพ่ใบที่ 3 ของเจ้ามือรวมกันแล้วเกิน 20 (แต้มรวมของคุณ) แต่ไม่เกิน 21 เจ้ามือจะชนะ
ในกรณีนี้ เพื่อที่จะชนะ เจ้ามือจำเป็นต้องมีแต้มรวมที่ 21 – หากแต้มรวมของเจ้ามือนั้นต่ำกว่า 20 (แต้มรวมของคุณ) เจ้ามือก็จะแพ้
7. เมื่อคุณชนะหรือแพ้รอบนั้น คุณสามารถเล่นอีกรอบได้โดยคลิกที่ ‘deal’
วิธีเล่นแบล็คแจ็ค เคล็ดลับและกลยุทธ์
แบล็คแจ็คเป็นเกมที่ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับโชค แต่การใช้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะของคุณ เราจะแบ่งปันเคล็ดลับและกลยุทธ์จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้คุณทำกำไรในฐานะมือใหม่ในแบล็คแจ็ค
1. ตีและยืน: เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องเข้าใจว่าเมื่อใดควรที่จะ ‘hit’ และ ‘stand’ เลือกที่จะ hit เมื่อแต้มรวมของไพ่สองใบแรกของคุณอยู่ในช่วงที่ต่ำและห่างจาก 21 เมื่อคุณเลือกที่จะ ‘hit’ เมื่อแต้มรวมของคุณใกล้เคียง 21 เช่น 17, 18, 19, 20 โอกาสที่จะได้แต้มเกิน 21 และเสียเดิมพันนั้นสูง
เลือกที่จะ ‘hit’ เพื่อรับไพ่เพิ่มเพื่อให้แต้มเข้าใกล้ 21 ให้ได้มากที่สุด แต่ไม่เกิน 21
เมื่อแต้มรวมของคุณใกล้ 21 เช่น 17, 18 และสูงกว่า ก็ถึงเวลา ‘stand’ และให้เจ้ามือเปิดเปิดไพ่ของเขา ผู้เล่นแบล็คแจ็คที่มีประสบการณ์เป็นผู้เชี่ยวชาญในการรู้ว่าเมื่อใดควร ‘hit’ และ ‘stand’
นอกเหนือจากการ hit และ stand ก็ยังควรที่จะใช้ตัวเลือกอื่น ๆ เช่น ‘double down’ ‘insurance’ และ ‘split’ อย่างชาญฉลาด ตัวเลือกการเดิมพันในแบล็คแจ็คเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณทำกำไรได้หากคุณใช้อย่างถูกต้อง
2. ใช้กลยุทธ์การเดิมพันที่ผ่านการทดสอบตามเวลา: กลยุทธ์ Martingale กลยุทธ์ parole กลยุทธ์ fibonacci ต่างเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ
หากต้องการชนะแบล็คแจ็ค ให้ใช้กลยุทธ์เหล่านี้กับแผนการเดิมพันของคุณ ตัวอย่างเช่น ใช้ระบบ parole – เพิ่มขนาดเดิมพันของคุณเป็นสองเท่าหลังการชนะแต่ละครั้ง และลดขนาดกลับไปเท่าเดิมหากจากแพ้
ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์การเดิมพันแบบไหน สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มและลดขนาดการเดิมพันของคุณในขณะที่เกมดำเนินไป หากคุณเดิมพันด้วยขนาดที่เท่ากันเป็นเวลา 4-5 เกมติดต่อกัน คุณอาจสูญเสียมากกว่าที่คุณสามารถไปต่อได้ หรืออาจเกิดการหยุดนิ่ง
3. บริหารเงินทุนของคุณ: ขณะที่คุณกำลังพยายามทำความเข้าใจเกมและหาวิธีเล่นแบล็คแจ็ค ให้ใช้ขนาดการเดิมพันเล็ก ๆ เราขอแนะนำให้ใช้ 1-3% ของเงินทุนของคุณเมื่อยังเป็นมือใหม่ เมื่อคุณมีประสบการณ์ในแบล็คแจ็คมากขึ้น คุณสามารถค่อย ๆ เพิ่มขนาดการเดิมพันของคุณได้
ข้อสรุป
คุณอาจรู้สึกอึดอัดในการพยายามทำความเข้าใจกฎและกลยุทธ์แบล็คแจ็ค ชัยชนะที่ดีที่สุดในการเรียนรู้วิธีเล่นแบล็คแจ็คคือการลงทะเบียนกับคาสิโนออนไลน์และเริ่มเล่น
คุณจะพบกับเกมแบล็คแจ็คออนไลน์แบบสาธิตมากมายที่คุณสามารถเล่นได้ฟรี เราขอแนะนำให้ฝึกบนเวอร์ชันสาธิตก่อนแล้วถึงเล่นด้วยเงินจริง
คำถามที่พบบ่อย
1. เล่นแบล็คแจ็คอย่างไร?
ตอบ: ในการเล่นแบล็คแจ็ค ให้ลงทะเบียนกับคาสิโนออนไลน์ เริ่มต้นด้วยการเลือกจำนวนเงินเดิมพัน (ขนาดเดิมพันของคุณ) คลิกที่ deal แล้วตัดสินใจก้าวต่อไป (hit หรือ stand) หากแต้มไพ่ในมือของคุณดีกว่าเจ้ามือ คุณจะชนะ หากแต้มรวมของเจ้ามือคือ 21 ใกล้เคียง 21 หรือสูงกว่าแต้มไพ่ในมือของคุณ เจ้ามือจะชนะ
2. ชนะเกมแบล็คแจ็คอย่างไร?
ตอบ: หากต้องการชนะแบล็คแจ็คและทำกำไร เราขอแนะนำให้คุณเรียนรู้เพิ่มเติมโดยการเล่น นอกจากนี้ ทำความเข้าใจเกมและใช้กลยุทธ์การเดิมพันต่าง ๆ เพื่อให้ชนะ
3. เมื่อไรที่ควรจะ ‘stand’?
ตอบ: หากแต้มรวมในมือของคุณใกล้กับ 21 เช่น 18 19 20 วิธีที่ดีที่สุดคือ stand และให้เจ้ามือเปิดไพ่ในมือของเขา หากคุณขอไพ่เพิ่มเติมเมื่อแต้มรวมของคุณใกล้ถึง 21 โอกาสที่ ‘bust’ (หรือแพ้) จะสูงขึ้น
