นักลงทุนที่กำลังต้องการเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดสามารถทำได้ด้วยอัตราทด แพลตฟอร์มเทรดเหล่านี้จะทำให้นักลงทุนสามารถเพิ่มกำไรได้ด้วยการให้ยืมเงินทุนในการเทรดกับตำแหน่งที่ใหญ่กว่า
อย่างไรก็ตาม การหาจากตัวเลือกมากมายก็ใช้ทั้งเวลาและความพยายาม
บทความนี้จะพาคุณไปดูแพลตฟอร์มเทรดคริปโตอัตราทดอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย ทั้งฟีเจอร์ คุณสมบัติ และความเสี่ยง ที่จะช่วยให้คุณมีข้อมูลในการตัดสินใจและตักตวงประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดได้
คู่มือเทรดเดอร์: 7 แพลตฟอร์มการซื้อขายเลเวอเรจ crypto ที่เราชื่นชอบ
ตลาดสกุลเงินดิจิทัลขึ้นชื่อในเรื่องความผันผวน แต่จะเป็นอย่างไรหากคุณสามารถเพิ่มกำไร (และขาดทุน) ของคุณได้? การซื้อขายเลเวอเรจช่วยให้คุณทำเช่นนั้นได้ ที่นี่ เราจะสำรวจแพลตฟอร์มการซื้อขายเลเวอเรจสกุลเงินดิจิทัล 7 อันดับแรกในปี 2024 ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับสไตล์การซื้อขายของคุณ
1. Binance
ความเป็นมา: ก่อตั้นในปี 2017 โดย Changpeng Zhao ซึ่งเป็นผู้มากประสบการณ์ในระบบการเทรดแบบ high-frequency trading Binance ได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อพิจารณาจากวอลลุ่มการเทรดรายวัน (นอกจากในสหรัฐ)
แพลตฟอร์มนี้รองรับผู้ใช้จากทั่วโลกที่สนใจใน altcoins โดยมีคู่เทรด crypto-to-crypto มากกว่า 600 รายการและการซื้อขาย NFT
ฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์
- แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุด: Binance มีวอลลุ่มในการแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับการระบบศูนย์รวมการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ โทเคนที่อยู่ในรายชื่อของ Binance มีข้อดีอยู่ที่มีสภาพคล่อง, น่าเชื่อถือ และมีการขึ้นราคาก่อนการลงรายชื่อ
- SAFU: Binance มีการใช้ Secure Asset Fund for Users (SAFU) ซึ่งใช้ 10% ของค่าธรรมเนียมในการเทรดเพื่อปกป้องเงินทุนของผู้ใช้ สกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกมีมากกว่า 350 รายการ แต่มีเพียง 150 รายการเท่านั้นที่มีในสหรัฐ
อัตราทดบน Binance
Binance ให้คุณเทรดด้วยอัตราทดได้ครอบคลุมมากกว่า 600 สกุลเงินดิจิทัล ด้วย Perpetual Future และตัวเลือกอื่น ๆ ที่มี ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มกำไร แต่ยังช่วยขยายรายละเอียดของการขาดทุนอีกด้วย
อัตราทดสูงสุด 125x มีความเสี่ยงบน BTC และ ETH ด้วยอัตราทดที่ต่ำกว่าสำหรับเหรียญอื่น ๆ ยิ่งงบของคุณสูงมากเท่าไหร่ อัตราทดจากการแลกเปลี่ยนก็จะต่ำลงเท่านั้น
อัตราทดถาวร BTCUSDT, ที่มา: Binance
Binance เผชิญกับการตรวจสอบควบคุมในนานาประเทศ ดังนั้นโปรดระมัดระวังเกี่ยวกับข้อจำกัดต่าง ๆ ด้วย
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมการเทรดคริปโตอยู่ที่ 0.05% ถึง 0.1% แต่การซื้อจากบัตรมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่า (1%-3%) ค่าธรรมมเนียม maker-taker อยู่ที่ 0.40%-0.60% พร้อมการเทรด Bitcoin ฟรี ภายใต้วอลลุ่ม $10,000 ต่อเดือนสำหรับคู่ Tier I (คู่ Tier I ประกอบไปด้วย DOT/USDT, LTC/USDT, SOL/USDT)
| มาร์จิ้นการซื้อขาย | มี |
| ค่าธรรมเนียม | 0.1% |
| วอลลุ่มการเทรด Spot ใน 24 ชม. (จากเดือนมีนาคม 2024) | $2,454,424,058 |
| อัตราทด | สูงสุด 125:1 |
| คู่ | 1,273 |
| ก่อตั้ง | 2017 |
ข้อดี:
- ฟีเจอร์แอดวานซ์พร้อมด้วย spot, futures, มาร์จิ้นการเทรด, staking และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งรองรับด้วยความคล่องสูงในการทำออเดอร์อย่างรวดเร็ว
- Binance ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วย 2FA, FDIC-insured USD balances (สำหรับ Binance ในสหรัฐเท่านั้น) และ การเก็บข้อมูลออฟไลน์/li>/li>
ข้อเสีย:
- Binance เผชิญกับข้อจำกัดมากมายเนื่องจากตรวจสอบควบคุมที่กำลังดำเนินอยู่
- ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ยังคงน่ากังขาสำหรับผู้ใช้บางคน
2. Kraken
ความเป็นมา: ก่อตั้งในปี 2013 โดย Jesse Powell Kraken เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลระดับโลกที่ให้บริการตั้งแต่นักลงทุนมือสมัครเล่นไปจนถึงมืออาชีพ พวกเขามุ่งเน้นไปที่การเหรอที่ปลอดภัยที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและวอลลุ่มการเทดสูง
ฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์
- Kraken Instant Buy: การซื้อขายในอุดมคติสำหรับผู้เริ่มต้น ทำให้สามารถซื้อและขายคริปโตได้อย่างสะดวกด้วยการยืนยันตัวตนที่รวดเร็ว
- Kraken Pro: อินเทอร์เฟซแบบแอดวานซ์สำหรับนักเทรดมืออาชีพ สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระและมีฟีเจอร์ spot, มาร์จิ้น และ staking ในที่เดียว
เมื่ออ้างอิงจากระบบออดิทรักษาความปลอดภัยโดย CER.live ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ Kraken จึงเป็นถึงอันดับสองด้านความปลอดภัยของการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล
อัตราทดบน Kraken
Kraken มีอัตราทดผ่านบัญชีมาร์จิ้น (สูงสุด 5x) และสัญญา futures (สูงสุด 50x) ซึ่งทำให้คุณสามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่กว่าด้วยการลงทุนที่น้อยกว่าได้ แต่โปรดจำไว้ว่าความเสี่ยงก็จะสูงขึ้นเช่นกัน
ค่าธรรมเนียม
Kraken มีอินเทอร์เฟซสองรูปแบบ Kraken Instant Buy จะเก็บค่าธรรมเนียม (0.9% สำหรับเงินมูลค่าคงที่, 1.5% สำหรับอื่น ๆ) สำหรับการซื้อทั่วไป สำหรับค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า ใช้ Kraken Pro ด้วยค่าธรรมเนียม maker/taker ที่เริ่มต้นจาก 0.16% และ 0.26% ตามลำดับ
| มาร์จิ้นการซื้อขาย | Yes |
| ค่าธรรมเนียม | 0% – 0.26% |
| วอลลุ่มการเทรด Spot ใน 24 ชม. (จากเดือนมีนาคม 2024) | $1,739,496,128 |
| อัตราทด | 5:1 |
| คู่ | 671 |
| ก่อตั้ง | 2011 |
ข้อดี
- Kraken ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย โดยจัดเก็บ 95% ของเงินฝากในพื้นที่จัดเก็บออฟไลน์และใช้สถานที่ที่ปลอดภัยพร้อมเวรยามติดอาวุธ
- Kraken Pro มีฟังก์ชั่นในการปรับแต่งมากมายและเป็นร้านค้าที่รวม spot, มาร์จิ้น และ staking ไว้ในที่เดียว
ข้อเสีย:
- ในขณะนี้ Kraken รองรับเงินสกุลเฟียตเพียงแปดสกุลเท่านั้น ซึ่งอาจจำกัดสำหรับผู้ใช้บางคน /li>
3. Coinbase
ความเป็นมา: Coinbase ถูกก่อตั้งในปี 2012 โดย Brian Armstrong และ Fred Ehrsam Coinbase เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐเมื่ออ้างอิงจากวอลลุ่มการเทรด ด้วยผู้ใช้กว่า 43 ล้านคน จึงกลายเป็นตัวแทนระดับโลกที่มีโมเดลการทำงานที่บ้านอย่างเต็มรูปแบบ
ฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์
- การได้รับ Coinbase: เรียนรู้และรับคริปโต: Coinbase สนับสนุนนักลงทุนหน้าใหม่ด้วยโปรแกรม “earn while you learn” ผู้ใช้ดูวิดีโอและทำแบบทดสอบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลในขณที่ได้รางวัลไปด้วย
- Naive Wallets: Coinbase Exchange Wallet: นี่เป็นวอลเล็ตเริ่มต้นสำหรับเทรดบน Coinbase ไพรเวทคีย์จะถูกเก็บไว้ในศูนย์แลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ความปลอดภัยลดลง Coinbase dApp Wallet ให้บริการกับโทเคน Ethereum-based ERC-20 ตัวเลือกที่สามก็คือ Coinbase Wallet กระเป๋าเงินแบบควบคุมได้เองที่เก็ยทรัพย์สินคริปโตและ NFT ไว้ และให้ผู้ใช้มีอำนาจควบคุมการถือครองของตนเองมากขึ้น (เป็นแอพพลิเคชั่นแยก ไม่จำเป็นต้องมีบัญชี Coinbase)
อัตราทดบน Coinbase
นักเทรดที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์สามารถเข้าถึงอัตราทดได้สูงสุดถึง 10x ซึ่งมีการจำกัดจำเพาะต่อสัญญา และค่าตามสัญญาสำหรับตำแหน่งทั้งหมดมีขีดจำกัดอยู่ที่ $90,000
ข้อจำกัดเหล่านี้ได้รับการประเมินบ่อยครั้ง โดยคำนึงถึงประวัติการซื้อขายของศูนย์แลกเปลี่ยน, วอลลุ่ม และทุนเงินประกัน
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียม Coinbase ไม่ได้ถูกแสดงไว้ล่วงหน้า ค่าธรรมเนียมเหล่านี้ขึ้นอยู่กับวิธีในการชำระ, ขนาดออเดอร์ และสภาพของตลาด ซึ่งจะอยู่ในช่วง $0.99 ถึง $2.99 พร้อมด้วยค่า spread เพิ่มเติม 0.5%
ในขณะที่ Coinbase เป็นแพลตฟอร์มที่ง่ายต่อการใช้งาน ค่าธรรมเนียมอาจจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มคู่แข่งอื่น ๆ คุณอาจลอง เยี่ยมชม Coinbase Pro เพื่อดูโครงสร้างของค่าธรรมเนียมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
| มาร์จิ้นการซื้อขาย | มี |
| ค่าธรรมเนียม | 0% – 0.3% |
| วอลลุ่มการเทรด Spot ใน 24 ชม. (จากเดือนมีนาคม 2024) | $5,532,352,153 |
| อัตราทด | 25:1 / สูงสุดถึง 10:1 สำหรับ perpetual futures |
| คู่ | 396 |
| ก่อตั้ง | 2012 |
ข้อดี
- เลือกตัวเลือกความปลอดภัยในการจัดเก็บ ซึ่งประกอบไปด้วย กระเป๋าเงินแบบควบคุมได้เองและแบบแลกเปลี่ยน
- รับรางวัลคริปโตในขณะที่เรียนรู้เกี่ยวกับสกุลเงินอื่น ๆ
- รวมถึงเงินประกัน FDIC สำหรับเงินฝาก USD และฟีเจอร์มาตรฐานความปลอดภัยในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ข้อเสีย:
- โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่มี spread จึงทำให้การคำนวนต้นทุนน่าสับสนสำหรับผู้เริ่มต้น
- ค่าธรรมเนียม staking อาจสูงถึง 25% ของกำไรในการ staking
เยี่ยมชม Coinbase
4. OKX
ความเป็นมา: OKX ถูกก่อตั้งในปี 2017 โดย Star Xu (CEO ในปัจจุบัน), OKX ได้กลายเป็นผู้เล่นหลัก ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 50 ล้านคนและเป็นพาร์ทเนอร์กับ Manchester City และ Australian Olympic Team แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่อยู่ใน Seychelles นี้มีตัวเลือกที่ครอบคลุมสำหรับการเทรด
ฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์
- Self-Trade Protection (STP): นักเทรดที่ใช้อัลกอริธึมในการเทรดจะต้องชอบฟีเจอร์นี้อย่างแน่นอน STP จะป้องกันไม่ให้เผลอเทรดเองโดยไม่ได้ตั้งใจ นักเทรด API จะได้รับประโยชน์จาก STP ที่สุด
- เทรดดิ้งบอทมาร์เก็ตเพลส 2.0: นักพัฒนาคริปโตเทรดดิ้งบอทสามารถอัปโหลดระบบของพวกเขาเองไปยังบอทมาร์เก็ทเพลสได้ และเพลิดเพลินไปรายได้ต่อหุ้นจากกำไรจากระบบอัตโนมัติOKX เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ครบจบในที่เดียวสำหรับผู้ที่สนใจในคริปโต เทรด spot มาร์เก็ท ด้วยตัวเลือกที่เรียบง่ายและซับซ้อน หรือเจาะลึกเข้าไปในอนุพันธ์อย่าง มาร์จิ้น, futures และ perpetual swaps สำรวจ NFT มาร์เก็ทเพลส สร้างเทรดดิ้งบอท หรือเข้าร่วมในการบล็อกเทรด
OKX โดดเด่นด้วย mining pool ทั้ง 11 ที่ได้ผลสำหรับ Bitcoin, Ethereum และ Litecoin คู่มือสาธิตจะช่วยแนะนำผู้ใช้เกี่ยวกับกระบวนการ mining ทำให้ง่ายขึ้นที่จะได้รับคริปโต
อัตราทดบน OKX
OKX มีมากกว่าแค่การเทรดแบบ spot ทั่วไป คุณสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลที่คุณถือครองเพื่อเข้าถึง perpetual futures และบัญชีมาร์จิ้นได้
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกจากตัวเลือกอัตราทดได้หลากหลาย ตั้งแต่ง 10x ไปจนถึง 100x ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่คุณรับได้ คุณสามารถเลือกโหมดสภาพความคล่องได้ทั้งเต็มรูปแบบหรือบางส่วน
ค่าธรรมเนียม
OKX คงต้นทุนไว้ต่ำ ค่าธรรมเนียมสำหรับการเทรดแบบ Spot เริ่มต้นที่ 0.08% สำหรับออเดอร์ในจำนวนจำกัดและ 0.1% สำหรับมาร์เก็ตออเดอร์ ค่าธรรมเนียมสำหรับแบบ futures ยังน้อยกว่า โดยอยู่ที่ 0.02% และ 0.05% ตามลำดับ การถือครองโทเคน OKB หรือเทรด BTC และ ETH เพื่อลดค่าธรรมเนียมลงไปอีก งานฝากไม่มีค่าใช้จ่ายและ OKX ก็เก็บค่าธรรมเนียมเครือข่ายสำหรับการถอนเท่านั้น
| มาร์จิ้นการซื้อขาย | มี |
| ค่าธรรมเนียม | Spot – 0.02% – 0.2%. Futures – 0.01% – 0.05% |
| วอลลุ่มการเทรด Spot ใน 24 ชม. (จากเดือนมีนาคม 2024) | $5,414,638,505 |
| อัตราทด | 318 |
| คู่ | 471 |
| ก่อตั้ง | 2017 |
ข้อดี
- การถือครองโทเคน OKB ลดค่าธรรมเนียมการเทรด
- Multiple Earning Avenues (เพิ่มกำไรสูงสุดด้วย Dual Investment รับผลตอบแทนที่คงที่ด้วย Fixed Income หรือคว้ารางวัลใหญ่ด้วย Flash Deals)
- โอกาสในการนำกำไรมาต่อหุ้นสูง: เดิมพันเหรียญสำหรับอย่างน้อย 1% APY พร้อมส่วนเกิน 100%
ข้อเสีย:
- เหมาะที่สุดสำหรับนักเทรดมากประสบการณ์เนื่องจากฟีเจอร์ที่แอดวานซ์
- โครงสร้างของค่าธรรมเนียมอาจดูน่าสับสนสำหรับผู้เริ่มต้นเนื่องจากมีเทียร์และส่วนลดที่หลากหลาย
5. Paybis
ความเป็นมา: Paybis ถูกก่อตั้งในปี 2014 โดย Innokenty Isers, Konstantin Vasilenko และ Arturs Markevich Paybis เริ่มต้นในฐานะของตัวทดลองและได้กลายเป็นแพลตฟอร์มระดับโลก พาร์ทเนอร์สำคัญกับ Simplex ซึ่งเป็นตัวกลางการชำระเงิน และ Kraken แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่รองรับบริการ
ฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์
- ความหลากหลายของช่องทางการชำระเงิน: Paybis โดดเด่นในแง่ของช่องทางการชำระเงินที่มากมาย มีผู้ให้บริการมากกว่า 40 รายการและวิธีอื่น ๆ ประกอบไปด้วย Google Pay, Apple Pay และบัตรเครดิต ซึ่งเพิ่งเปิดตัวการชำระ ACH เพื่อการโอนไปยังธนาคารในสหรัฐได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- แนะนำและรับ: Paybis ยังมีโปรแกรม ‘Refer and Earn’ เมื่อแนะนำให้กับสมาชิกใหม่ คุณสามารถรับค่าคอมมิชชั่นได้สูงสุด 45% ของกำไรทั้งหมดของ Paybis จากการเทรดของพวกเขา ซึ่งเป็นการเพิ่มแนวทางในการได้รายได้เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่ชาญฉลาด
อัตราทดบน Paybis
Paybis มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัล แต่ไม่ได้มีการเทรดอัตราทด ซึ่งอาจไม่ค่อยสะดวกนักสำหรับบางคน แต่อาจเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเข้าสู่วงการลงทุนคริปโตแบบเรียบง่าย
ค่าธรรมเนียม
การซื้อคริปโตครั้งแรกจะได้รับการเว้นค่าธรรมเนียม Paybis และการซื้อขายครั้งต่อ ๆ ไปจะมีค่าธรรมเนียมอยู่ระหว่าง 0.99% และ 2.59% ขึ้นอยู่กับช่องทางการชำระเงิน
Paybis เก็บค่าธรรมเนียมในการถอนไปยังวอลเล็ตภายนอก และอาจมีค่าบริการ $2 อ้างอิงจากตัวเลือกช่องทางการชำระเงินที่คุณเลือก
| มาร์จิ้นการซื้อขาย | ไม่มี |
| ค่าธรรมเนียม | 0.99% and 2.59% |
| วอลลุ่มการเทรด Spot ใน 24 ชม. (จากเดือนมีนาคม 2024) | – |
| อัตราทด | 150+ |
| คู่ | 200+ |
| ก่อตั้ง | 2014 |
ข้อดี
- ผู้ใช้สามารถซื้อ Bitcoin ได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ต่ำสุด $5
- ให้บริการถึงเก้าภาษา ครอบคลุมกว่า 180 ประเทศ
- มาตราการความปลอดภัยหลายชั้นเพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ
Cons:
- อาจมีค่าธรรมเนียมสูง: ค่าธรรมเนียมอาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับช่องทางในการชำระเงิน
- ฟีเจอร์ที่จำกัด: ไม่มีการเทรดอัตราทดหรือฟีเจอร์โซเชียล
6. Kucoin
ความเป็นมา: Kucoin ถูกก่อตั้งในปี 2017 Kucoin เปิดตัวในฐานะแพลตฟอร์มอันดับต้น ๆ สำหรับการเทรด altcoin แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน ที่นำโดย CEO Johnny Lyu มีคลังสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 840 รายการ
ฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์
- P2P และการสนับสนุน staking: แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสนับสนุนทั้ง staking และการเทรดแบบ peer-to-peer (P2P) trading ซึ่งไม่ได้พบได้ทั่วไปในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่
- โทเคนที่เชื่อมต่อกับบัญชี: KuCoin Account-Bound Tokens (KABT) จะให้ผู้ใช้ที่ยืนยันข้อมูลส่วนตัวปลดล็อกสิทธิประโยชน์พิเศษภายในระบบ KuCoin ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญในตัวตน on-chain ในระบบ Web3
ผู้ถือครองสามารถได้รับรายได้ทางอ้อมผ่านโปรแกรม soft staking ของ KuCoin และปันผลกำไรการแลกเปลี่ยนรายวัน นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังได้รับส่วนแบ่งสกุลเงินดิจิทัลรายวันจากหุ้น KuCoin Shares (KCS) ที่ถือครองอีกด้วย
อัตราทดบน Kucoin
KuCoin ได้เพิ่มตัวเลือกอัตราทดสำหรับการเทรด Bitcoin และ Tether เพื่อให้ผู้ใช้เพิ่มรายได้ (หรือขาดทุน) ด้วยอัตราทดถึง 100x อัตราส่วน การเทรดมาร์จิ้น จะแตกต่างออกไปด้วยเหรียญ พร้อมการเข้าถึง 50x
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมมีการแข่งขันสูง Kucoin ใช้โครงสร้าง maker-taker ด้วยค่าธรรมเนียม maker ที่ต่ำ 0.1% และค่าธรรมเนียม taker 0.1% โดนไม่มีขั้นต่ำ การถือครอง KCS จะให้สิทธิ์ในการรับส่วนลดเพิ่มเติม 20%
| มาร์จิ้นการซื้อขาย | Yes |
| ค่าธรรมเนียม | 0.1% |
| วอลลุ่มการเทรด Spot ใน 24 ชม. (จากเดือนมีนาคม 2024) | $3,285,626,846 |
| อัตราทด | 20:1 เบื้องต้น, สูงสุดถึง 100:1 |
| คู่ | 1,273 |
| ก่อตั้ง | 2014 (เปิดตัว 2017) |
ข้อดี
- ผู้ถือครองสามารถเพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์ เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียมการเทรด, ส่วนแบ่งคริปโตรายวัน, เข้าถึงคู่เทรดได้มากกว่า, สิทธิพิเศษในการแลกเปลี่ยน และหุ้นของกำไรในการแลกเปลี่ยนผ่าน staking
- ฟีเจอร์ที่แอดวานซ์: Staking, การเทรด P2P และการเทรดมาร์จิ้นที่ให้บริการกับผู้ใช้ที่มากประสบการณ์
Cons:
- ฟีเจอร์ของแพลตฟอร์มที่แอดวานซ์อาจมากเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้น
- Altcoins บางรายการอาจมีความคล่องที่จำกัด จึงส่งผลกับการเทรด
7. Bitmart
ความเป็นมา: Bitmart ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Sheldon Xia ซึ่งเป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมในการริเริ่มบล็อกเชน Bitmart เป็นแพลตฟอร์มศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนที่ให้บริการผู้ใช้มากกว่า 9 ล้านคนทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่ Cayman Islands ซึ่งให้บริการมากมายมากกว่าการเทรด ประกอบไปด้วย staking, การกู้ และอนุพันธ์อื่น ๆ
ฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์
นอกจากตัวเลือกมาตรฐานในการเทรด Bitmart ยังมีฟีเจอร์ อย่าง Bitmart Earn ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถได้รายได้ทางอ้อมจากการถือครองคริปโตผ่านผลิตภัณฑ์อมทรัพย์ต่าง ๆ
- การออมที่ยืดหยุ่น: รับดอกเบี้ยจากคริปโตที่ฝากและสามารถถอนเงินทุนได้ทุกเมื่อ
- การออมแบบคงที่: รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าด้วยการล็อกคริปโตของคุณในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
อัตราทดบน Bitmart
สำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ Bitmart จะให้บริการการเทรดมาร์จิ้น และการเทรด futures เมื่อเปิดตัวในปี 2020 ตลาด futures ให้อัตราทดสูงสุดถึง 100x สำหรับทรัพย์สินบางรายการ
ค่าธรรมเนียม
Bitmart ใช้โครงสร้างค่าธรรมเนียม maker-taker แบบเทียร์โดยเริ่มจาก 0.25% และลดลงโดยอ้างอิงจากวอลลุ่ม 30 วันและการถือครองโทเคนของแพลตฟอร์ม BMX การเทรด futures มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ ด้วยค่าธรรมเนียม maker อยู่ที่ 0.04% และค่าธรรมเนียม taker อยู่ที่ 0.06% ไม่มีค่าธรรมเนียมเงินฝากแต่ค่าธรรมเนียมการถอนจะแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละเหรียญ
| มาร์จิ้นการซื้อขาย | มี |
| ค่าธรรมเนียม | เริ่มต้นที่ 0.25% |
| วอลลุ่มการเทรด Spot ใน 24 ชม. (จากเดือนมีนาคม 2024) | $2,766,179,878 |
| อัตราทด | สูงสุดถึง 100:1 |
| คู่ | 1,164 |
| ก่อตั้ง | 2017 |
ข้อดี
- Bitmart มีฟีเจอร์อย่าง staking, การกู้ และโปรแกรมได้รับรายได้ทางอ้อมจากการถือครองคริปโต
- ใช้ระบบทางวิศวกรรมหลายชั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
- มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัดสำหรับการเทรด futures กว่าการเทรดแบบ spot ซึ่งน่าดึงดูดสำหรับผู้ใช้มากประสบการณ์
ข้อเสีย:
- โครงสร้างค่าธรรมเนียม maker-taker ที่มีอัตราตัวแปรอ้างอิงจากวอลลุ่มการเทรดและการถือครองโทเคนอาจทำให้ผู้ใช้หน้าใหม่สับสน
- อาจเกิดความไม่สะดวกเนื่องจากค่าธรรมเนียมในการถอนที่อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละสกุลเงินดิจิทัล
ข่าวสาร: Kraken, Binance และ Coinbase กำลังเผชิญกับคดีความจาก SEC ด้วยถูกกล่าวหาว่ามีการดำเนินการในฐานะแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน, โบรกเกอร์ และเคลียร์ริ่งเอเจนซี่ที่ไม่ได้จดทะเบียนความปลอดภัย
บทสรุป
การเทรดอัตราทดสกุลเงินดิจิทัลให้โอกาสที่น่าสนใจแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน ความสามารถในการเพิ่มกำไรและใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายในการเทรดอาจน่าดึงดูด แต่ก็มีโอกาสสูงในการขาดทุน จนไม่อาจมองข้ามได้ง่าย ๆ
ก่อนที่จะเข้าสู่สนามที่เดิมพันสูง นักเทรดจะต้องตรวจสอบถึงความเสี่ยงที่รับได้ ค้นคว้าหาความรู้ให้ครอบคลุม และสร้างแผนรองรับที่จะลดโอกาสในการสูญเสีย
สำหรับผู้ที่เต็มใจจะเสี่ยงและมีความรู้และเครื่องมือที่พร้อมเรียบร้อยแล้ว การเทรดอัตราทดคริปโตก็อาจเป็นหนทางที่จะได้ผลตอบแทนอย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมหรือไม่เต็มใจที่จะรับความเสี่ยง ก็อาจเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่าในการใช้กลยุทธ์ในการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าในขอบเขตของสกุลเงินดิจิทัล
